ประวัติตำบลห้วยซ้อ
ประมาณ พ.ศ. 2436 ชาวบุญเรืองใต้ นำวัวมาเลี้ยงบริเวณนี้เป็นประจำ นานวันเข้าก็ได้สร้างเพิงพักชั่วคราว และคอกเลี้ยงวัวกันขึ้น เพระหนทางไปกลับในสมัยนั้นลำบาก และมีโจรผู้ร้ายชุกชุม ดังนั้น จึงมาสร้างเพิงพักและคอกวัวใกล้กัน เมื่อมาอยู่รวมกันมากขึ้นจึงเรียกบริเวณนี้ว่า บ้านผามงัว ("ผาม” คือ คอก,ที่กั้น,ที่บัง “งัว” คือ วัว) ต่อมาจึงตั้งบ้านเรือนเป็นการถาวร ทำการจับจองที่ทำกินกัน และเครือญาติต่างก็ทยอยกันมาจับจองที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย จนมีประชากรหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนจาก จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาสมทบ โดยประชากรส่วนใหญ่ ตั้งบ้านเรือนตามลำห้วยสายหนึ่ง เรียกว่า ห้วยซ้อ เพราะตลอดลำห้วยมีต้นไม้ชนิดหนึ่ง เรียกว่า“ไม้ซ้อ" ขึ้นอยู่สองฟากห้วยเป็นจำนวนมาก ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อบ้านผามวัว มาเป็นบ้านห้วยซ้อ และบ้านซ้อ ตามภาษาที่เรียกกันโดยทั่วไป ตามลำดับ พ.ศ 2439 ทางการประกาศตั้งเป็นหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ
ที่มา: อาจาร์สมชาย วิริจินดา เรียบเรีย
"ซ้อ" ต้นไม้ประจำตำบลห้วยซ้อ
ซ้อ
Gmelina arborea Roxb.
Lamiaceae (Labiatae)
ไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ประมาณ 20 ม. ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับฉาก รูปไข่ ยาว 7-20 ซม. ปลายใบแหลมหรือแหลมยาว โคนใบรูปลิ่มกว้าง แผ่ออกคล้ายรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีนวลและมีขนสั้นนุ่ม เส้นแขนงใบ 3-5 คู่ ออกจากโคน 1 คู่ ก้านใบยาว 3-10 ซม เป็นร่องด้านบน ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงสั้นๆ ออกตามปลายกิ่ง มี 1 หรือหลายช่อ ยาว 7-15 ซม. ใบประดับหลุดร่วงง่าย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีจำนวนอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงรูประฆัง ยาว 0.3-0.4 ซม. ปลายกลีบรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ด้านนอกมีขน ติดทน กลีบดอกสมมาตรด้านข้าง รูปปากแตรโป่งด้านเดียว ยาว 2-4 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ กลีบบน 2 กลีบ กลีบล่าง 3 กลีบ ไม่เท่ากัน ด้านนอกมีสีน้ำตาลแดง ด้านในหลอดกลีบสีครีมอ่อนๆ กลีบปากล่างกลีบกลางด้านในมีสีเหลืองแซม มีขนสั้นนุ่มด้านนอก ด้านในเกลี้ยง เกสรเพศผู้ สั้น 2 อัน ยาว 2 อัน ยื่นไม่พ้นปากหลอดกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้ติดบนหลอดกลีบดอกตรงประมาณกึ่งกลาง รังไข่เกลี้ยง มีต่อม ยอดเกสรเพศเมียมี 2 แฉกไม่เท่ากัน ผลแบบเมล็ดเดียวแข็ง สุกสีเหลือง รูปไข่หรือรูปไข่ ยาว 1.5-2 ซม. ซ้อหินมีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง พบตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา เนปาล บังคลาเทศ ภูฎาน พม่า จีนตอนใต้ ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ในไทยพบกระจายทั่วทุกภาค ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าดิบชื้น ระดับความสูงจนถึงประมาณ 1500 เมตร
หมายเหตุ ซ้อ เป็นชื่อที่ใช้เรียกกันในภาคเหนือ
ชื่ออื่น
แก้มอ้น (ชุมพร,อุดรธานี); ช้องแมว (ชุมพร,ปราจีนบุรี, ราชบุรี,สุพรรณบุรี); เซาะแมว (นราธิวาส); แต้งขาว (เชียงใหม่); เป้านก (อุตรดิตถ์); เฝิง (เพชรบุรี,เหนือ); ม้าเหล็ก (กาญจนบุรี); เมา (สุราษฎร์ธานี); สันปลาช่อน (สุโขทัย)

ช่อดอกแบบช่อกระจุก แยกแขนงสั้นๆ ทน กลีบดอกสมมาตรด้านข้าง รูปปากแตรโป่งด้านเดียว
(ภาพ: ปิยะชาติ ไตรสารศรี; เขาใหญ่, นครนายก)
ผลแบบเมล็ดเดียวแข็ง สุกสีเหลือง กลีบเลี้ยงติดทน
(ภาพ:กุยบุรี, ประจวบคีรีขันธ์)

ใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามสลับฉาก ปลายใบแหลมหรือแหลมยาว โคนใบรูปลิ่มกว้าง แผ่ออกคล้ายรูปหัวใจ

ลักษณะลำต้นโดยทั่วไป
**************************************************************************** |